การเดินทางเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ถือเป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้กับชีวิต และเป็นการชาร์จพลังให้กับตัวเอง วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เหล่าแบ็กแพ็คเกอร์ต้องห้ามพลาด เพราะแต่ละที่คุ้มค่าต่อการต้องเคลียร์คิวบินลัดฟ้าไปเช็คอินเป็นอย่างมาก และตั๋วเครื่องบินก็ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์อีกด้วย หากใครไม่เชื่อ ลองเข้าไปเช็คราคาตั๋วเครื่องบินกันได้ที่ Traveloka รับรองว่าพอกดเข้าไปดูแล้วจะอยากมีทริปกับเขาบ้างทันที เพราะราคาไม่แพง สามารถวางแผนเก็บเงินได้ไม่ยาก ด้วยราคาที่แสดงเป็นราคาที่ต้องจ่าย ไม่มีบวกเพิ่ม เราก็สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จได้ล่วงหน้า พร้อมกับไม่มีค่าธรรมเนียมการจอง รวมถึงการชาร์จบัตรเครดิตด้วย … เกริ่นกันมาซะยาว เราไปดูกันดีกว่าว่ามีสถานที่ไหนควรค่าแก่การไปเช็คอินในปีนี้กันบ้าง
เลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย (Leh, Ladakh – India)
“เลห์” หรือที่เรียกกันว่า ‘ทิเบตน้อย’ เนื่องจากได้รับวัฒนธรรมมาจากทิเบตเป็นส่วนใหญ่และมีความผสมผสานของหลากหลายวัฒนธรรมและเชื้อชาติ เลห์เป็นเมืองหลวงของแคว้นลาดักห์ ประเทศอินเดีย เมื่อมาที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับการขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านวิวสวยระดับล้าน เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยเทือกเขาหิมะสวยงาม จนบางครั้งอาจเผลอคิดไปว่านี่เรากำลังอยู่บนดาวอังคารหรือเปล่า? และหากใครได้มีโอกาสเดินทางมาที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปทะเลสาบปางกอง (Pangong) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก ที่มีความงามเกิดขึ้นเมื่อผิวน้ำถูกกระทบด้วยแสงแดด จนกลายเป็นสีฟ้าเขียวมรกตระยิบระยับสวยงามควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิต
ภูเขาไฟโบรโม่ ประเทศอินโดนีเซีย (Bromo – Indonesia)
มาถึงอินโดนีเซียทั้งทีต้องมาชมความยิ่งใหญ่ของ “ภูเขาไฟโบรโม่” ภูเขาไฟที่ยังดับไม่สนิท โดยเริ่มต้นทริปจากการตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมารอชมวิวภูเขาไฟหลังพระอาทิตย์ขึ้นจากจุดชมวิว ‘Penanjakan’ โดยจะได้ของแถมระหว่างรอคือทางช้างเผือกสวยๆ ให้ถ่ายรูป จากนั้นช่วงสายก็ถึงเวลาเดินขึ้นไปยังปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่ คุณจะได้พบกับกลุ่มควันที่พวยพุ่งขึ้นมาจากหุบเหวลึกคล้ายลมหายใจของเทพเจ้า โดยจะมีความเชื่อกันว่าถ้าใครมาถึงที่นี่ต้องโยนดอกไม้ลงไปในปากปล่องภูเขาไฟเพื่อสักการะเทพเจ้าและจะโชคดีตลอดปี
ซาปา และมุยเน่ ประเทศเวียดนาม (Sapa, Muine – Vietnam)
“ซาปา” เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ทางชายแดนภาคเหนือของประเทศเวียดนาม จุดเด่นของที่นี่คือการทำนาขั้นบันได และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอย่างหมู่บ้านชาวเขา สถาปัตยกรรมโบสถ์ของศาสนาคริสต์ และเอกลักษณ์ของคนเวียดนามคือการขับมอเตอร์ไซค์ เมื่อมาถึงประเทศเวียดนามคุณจะเห็นคนส่วนใหญ่ขับมอเตอร์ไซค์มากกว่ารถยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบซาปาได้เลย การมาเที่ยวซาปาควรมาช่วงหน้าหนาวเพราะอากาศที่นี่จะเย็นสบายถึงขั้นหนาวจนเคยมีหิมะตกมาแล้ว หรือหากใครอยากเที่ยวทะเลทรายแต่ไม่อยากเดินทางไปต่างประเทศไกลจากเมืองไทยก็ต้องไปที่ “มุยเน่” เพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดฮิตรอให้เหล่าแบ็กแพ็คเกอร์มาเช็คอินกัน พร้อมกับโพสท่าถ่ายรูปสุดแนวกันด้วย ที่นี่มีทั้งทะเลทรายขาวและทะเลทรายแดง และยังมีหมู่บ้านชาวประมงให้ได้เลือกเที่ยว
เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ (Cebu – Philippines)
“เซบู” เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ เป็นเมืองเก่าแก่และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงามที่ใครไปก็ต้องหลงรักเซบูแน่นอน และสำหรับไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ “การดำน้ำกับฉลามวาฬ!” ที่เมือง ‘Oslob’ ซึ่งแทบไม่ต้องพึ่งโชคพึ่งดวงอะไรเลย เพราะที่นี่คุณจะพบเห็นเจ้าฉลามวาฬได้ง่ายมาก โดยเจ้าฉลามชนิดนี้เป็นฉลามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแถมยังใจดีจนสามารถว่ายน้ำเล่นเคียงคู่ไปกับพี่ฉลามเค้าได้เลย และกิจกรรมนี้เองถือเป็นจุดขายของเซบูที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาเยือนเซบูให้ได้สักครั้งในชีวิต
วังเวียง ประเทศลาว (VangVieng – Laos)
“วังเวียง” หรือกุ้ยหลินเมืองลาว เมืองเล็กๆ ที่ติดกับแม่น้ำซอง ด้วยธรรมชาติและมนต์เสน่ห์ของวังเวียงเมื่อใครได้มาที่นี่เป็นต้องหลงใหลและหลงรัก กิจกรรมฮอตฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่คือโดดน้ำที่บลูลากูน บ่อน้ำสีฟ้าอมเขียว พายเรือพายัค หรือล่องห่วงยางชมวิวสองฝั่งแม่น้ำซอง พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ตื่นเช้ามาก็ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมวิวสวยของเมืองวังเวียงจากมุมสูงที่ผาเงินได้ หรือเลือกชมวิวกันแบบลอยฟ้าด้วยการนั่งบอลลูนก็ได้อีกเช่นกัน
เป็นอย่างไรกันบ้าง?
เรียกได้ว่าทุกที่นั้นน่าสนใจและมีกิจกรรมเด็ดๆ ไว้รอต้อนรับชาวแบ็กแพ็คเกอร์กันเพียบ
อย่ารอช้ากันเลยดีกว่า รีบเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นลงกระเป๋าใบเก่งของคุณ แล้วออกไปเช็คอินตามสถานที่สุดฟินเหล่านี้กันเลย
#ไปเที่ยวกัน ^__^